วันพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ไปทำนามบัตรมา

ตอนนั้นพ่อบอกว่า ทำนามบัตรซักทีสิ่เผื่อพ่อเอาให้เพื่อน ถ้าเค้ามีงานมาให้จะได้ติดต่อได้ ....ก็เลยคิดได้ว่าทำซะเถอะ เวปก็มีแล้ว จริงจังกะเขาหน่อย

วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2554

เก็บงานเก่าๆมาเล่าแบบใหม่

เอางานที่เคยวาดมือมาดราฟใหม่แล้วใส่การ์ตูนลงไป ตอนแรกจะลงสีให้หมด แต่ดูๆไปแค่นี้ก็ดูดีแล้วิหมือนกัน (ไม่ได้ขี้เกียจนะ)
ปล ตอนนี้เป็นหน้าเวปอยู่ www.whatsup-duck.com :)

วันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2553

วันพฤหัสบดีที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ลองส่งไปดู


ลองส่งไปดู เอามาลงนิดนึง

TEST TEST

เอาตัวอย่างที่วาดบางส่วนมาให้ดู ยังไม่เสร็จ แล้วจะเอามาอัพใหม่เร็วๆนี้:)

วันพุธที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2553

มีรูปมา อวด ให้ดูเฉยๆ วาดเอง


มีรูปมา อวด ให้ดูเฉยๆ วาดเอง



ชีวิตในช่วงระยะ เป็นชีวิตที่มีสิ่งผิดพลาดเกิดขึ้นหลายๆอย่าง สิ่งที่คิดว่าจะได้ก็กลับผิดหวังอย่างสมบูรณ์ เป็นเหตุให้เกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นมา เกิดขึ้นมาหลายอย่างตามกันขึ้นมาราวกับดอกเห็ด ....แต่ในสิ่งไม่ดีย่อมมีสิ่งที่ดีซ่อนอยู่เสมอ ในช่วงเวลาที่ไม่ได้ทำอะไร ก็ทำให้ได้คิดอะไรหลายๆอย่างและเมื่อได้คิด ก็ทำให้เราเริ่มลงมือทำโดยแบบที่ไม่คิดกังวลว่าผลรับมันจะเป็นอย่างไร ดังนั้นฉันจึงเริ่มทำและทดลองทำสิ่งหลายๆอย่างที่ไม่เคยมีโอกาสได้ทำ มันก็เป็นโปรเจกนึงที่ทำร่วมกับเพื่อนอีกคนที่กำลังประสบปัญหาคล้ายๆกัน โดยบทที่1 เราได้ทำกันไปแล้ว เราไปทำแซนวิชขายกันที่หน้ารถไฟฟ้าmrtสุขุมวิทย์แหล่งมนุษย์เงินเดือนที่ยิ่งใหญ่ในกรุงเทพมหานคร มีคนทำงานเดินผ่านมากมายในช่วงเวลาเข้างาน แต่น้อยคนนักที่จะสนใจงานชิ้นเอกบทที่1ของเรา แต่แปลกดีเราเห็นคนทำงานเดินผ่านมากกมายแต่ก็ไม่ได้รู้สึกเสียดายช่วงเวลาเก่าเหล่านั้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่กลับไปใช้ชีวิตแบบนั้นหรือว่ามันไม่ดีนะ เพราะยังไงฉันก็ยังต้องพึ่งประสบการณ์แบบนั้นอยู่เหมือนกัน กลับมาที่เรื่องแซนวิช เราขายกันไปได้ประมาณสิบชิ้น ถ้าเทียบแล้วประมาณได้ว่าใน500คนที่เดินผ่านมี1คนที่ซื้อไป ทำให้เราขาดทุนอย่างสิ้นเชิง แต่คิดดูอีกที ถ้าเราไม่นับเม็ดเงินที่เราลงทุนไปและเงินที่ได้กลับคืนมานั้น เราได้กำไรเห็นๆ!!! มีหลายสิ่งที่ทำให้เราได้เรียนรู้ เรียนรู้จากการได้ลงมือทำครั้งนี้ มีมิตรภาพดีๆเกิดขึ้นบ้าง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ เงินเดือนที่เราเคยมีหลายๆเดือนก็ไม่สามารถทำให้เราเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ได้ ...ดังนั้นฉันจะคิดใหม่ วิกฤตที่มันเกิดขึ้นกับฉันตอนนี้ ฉันจะพลิกเอามันมาเป็นโอกาส จะทำหลายๆสิ่งที่ไม่ได้ทำ แล้ววันไหนที่การลงมือทำครั้งนี้ที่เปรียบเสมือนเดินในอุโมงค์มืดๆนี้ ได้เจอแสงสว่างและหาทางออกเจอ ฉันจะมาเล่าให้ฟังใหม่ วันนั้นฉันจะหัวเราะดังๆ และไม่ลืมช่วงเวลานี้เลย....ว่าแล้ว โปรเจคบทที่2 ก้กำลังเริ่มขึ้นแล้วล่ะ
ปล.พร่ำซะยาวเหมือนจะมีคนอ่านนะ ฮ่าๆๆ แต่ยังไงก็ได้ระบายวะ จัดไป